School of rock หนึ่งในหนังดนตรี ที่สร้างรอยยิ้ม และความทรงจำให้กับใครหลาย คนในอดีตนั้นเอง

School of rock เนื้อเรื่อง เป็นอย่างไร?

School of rock เรื่องราวเกี่ยวกับ นักดนตรีตบอับคนหนึ่งที่ชื่อว่า ดูอี้ ฟินน์ นำแสดงโดย (แจ็ค แบล็ก) ที่เขามีความฝันที่จะมี วงดนตรีร็อคเป็นของตัวเอง ด้วยความต้องใจของเขานั้น ทำให้ใครหลายคนในวงเริ่มไม่ชอบเขา และได้ร่วมกันโหวดให้ดูอี้ออกจากวง หลังจากที่เขาโดนไล่ออกมาแล้ว ก็เข้าสู่ช่วงหมดหนทางในชีวิต แต่เขาก็ได้ทราบเรื่องจากเพื่อนเขา เน็ด ชนีปลีย์ นำแสดงโดย (ไมค์ ไวน์)

ที่โรงเรียนต้องการครู ด้วยฟินน์เองที่รู้สึกถังแตก และได้เกิดไอเดียขึ้นมา ที่จะปลอมเป็นครูเพื่อไปสอน แทนชื่อของเพื่อนเขานั้นเอง เพื่อนเขาของได้เตือน และเป็นห่วงชื่อเสียงของตัวเอง แต่ฟินน์นั้น ได้หว่านล้อมด้วยวิธีต่างๆ

แต่แล้วก็ถูกแฟนสาวของเน็ด เข้ามาในห้องจึงทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดคุยกัน ฟินน์ได้เริ่มต้นทำงานเป็นครู ภายใต้ชื่อเพื่อนของเขา ในระหว่างที่เขารอสอนนักเรียนห้องเขา ฟินน์ได้ยินนักเรียนพวกเขา เล่นดนตรีคลาสสิคกัน

จึงทำให้เขานั้นเกิดไอเดีย ที่จะฟอร์มวงร็อคขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังจากที่นักเรียนกลับมาเรียนห้องของตัวเอง ฟินน์ที่เป็นครูที่ปรึกษาในห้อง ได้จัดเตรียมเครื่องดนตรี เอาไว้ในห้องเรียกชนิดที่ว่าครบวงเลยทีเดียว ฟินน์ได้เลือกเด็กทุกคนที่มีแวว

ในเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ และได้เริ่มถ่ายทอดวัฒนธรรมร็อค ให้กับเด็กในห้องเรียน จึงทำให้เด็กๆต่างชื่นชอบในตัวครูฟินน์ ตัวของเขาเองจึงคิดโปรเจค นำเด็กไปประกวดการแข่งขันวงร็อค ตามฝันที่เขาอยากจะไปยืนที่ตรงนั้น

จึงได้หว่านล้อมครูใหญ่ของโรงเรียนอย่าง โรซาลี มัลลินส์ นำแสดงโดย (โจน คูแซต) โดยครูใหญ่เองในอดีต ก็เป็นแฟนเพลงร็อค แต่ด้วยหน้าที่จึงทำให้ เธอเองต้องอยู่ในหมาดที่น่ากลัว หลังจากที่ฟินน์ได้ไฟเขียว ที่จะให้เด็กๆของเขาได้รู้จักกับการประกวด จึงทำให้เหล่านักเรียนของเขา ต้องรู้สึกแปลกตาเมื่อเข้ามาอยู่ในกลุ่ม ผู้ประกวดที่เป็นผู้ใหญ่ และมีสไตล์การแต่งตัวที่ชัดเจน

เรื่องราวกับผลันเปลี่ยนเมื่อ แฟนของเน็ด ทราบเรื่องเข้าที่ ฟินน์ใช้ชื่อเน็ดในการส่วมรอยเป็นครู จึงทำให้เรื่องราวบานปลาย ไปถึงวันประชุมผู้ปกครอง ที่ได้มีตำรวจมาหายังฟินน์หน้าห้องเรียน ขณะที่เขากำลังบอกกับผู้ปกครอง ว่าลูกๆของพวกเขานั้นมีพรสวรรค์อย่างไร จนในทีสุดเขาต้องยอมจำนน ต่อสืงที่เขาทำไป เขาได้ถูกจับข้อหาปลอมเป็นครู แต่ด้วยแนวคิดต่างๆ

ได้ฝังเด็กๆทุกคนในแง่ของโลกดนตรี จึงทำให้พวกเหล่าเด็กๆ ไม่ได้ลดศรัทธาที่มีต่อฟินน์นั้นเอง ในวันประกวดนั้นเด็กๆ ได้รวมตัวกันไปหาฟินน์ที่ห้องพักของเพื่อนเขา เพื่อที่จะไปแสดงให้ทันนั้นเอง หลังจากที่ทุกคนได้โชว์ความสามารถ ที่เกินเด็ก เหล่าผู้ปกครองที่ทราบว่าลูกของตนนั้น เดินทางมาประกวดยังที่โรงละคร จึงทำให้เหล่าผู้ปกครอง ที่กำลังอาละวาดใส่ครูใหญ่

ได้ตามกันไปชมเหล่าลูกๆ ยังหน้าเวทีรวมถึงครูใหญ่ด้วย ทำให้พวกเขาได้เห็นศักยภาพเด็ก และฟินน์ ที่ถือว่าเป็นฟร้อนแมนของวงนั้นเอง หลังจากจบการประกวดนั้น เหล่าผู้ปกครองจึงยอมเชื่อใจฟินน์ และได้มีการเสริมการเรียนเรื่องดนตรี หลังจากเวลาเรียนปกติที่โรงเรียน จึงทำให้ฟินน์นั้นมีหน้าที่ และได้ทำในสิ่งที่เขารักนั้นเอง

School of rock กระแส เป็นอย่างไรบ้าง?

หลังจากหนังเรื่องนี้ ได้เข้าฉายในปี 2003 นั้นได้สร้างปรากฎการณ์ วงดนตรีร็อคมากมาย รวมทั้งกระแสการนิยมฟังเพลง ร็อคแอนโรลนั้นกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่หนังได้นำเพลงดัง ในยุคก่อนมาเล่นภายในเรื่อง จึงทำให้ผู้ชมนั้น อินไปกับหนังและบทเพลง ที่ถือได้ว่าทุกคนต่างรู้จัก หากได้ยินเพลงนั้นเอง หนังเรื่องนี้เป็นผลงานของ ผู้กำกับอย่าง ริชาร์ด ลินเคลเตอร์ ผู้ที่มีผลงานที่เป็นตำนาน อย่างเรื่อง Boyhood (2014) ที่นับว่าใช้เวลาในการถ่ายทำถึง 7 ปีเข้าด้วยกัน ส่วนหนังเรื่องนี้ได้สร้างชื่อให้กับเขา

ไม่ว่าจะเป็นทางด้านแรงบัลดาลใจ ของเด็กๆในยุคนั้นที่รวมกันฟอร์มวง หรือเทรนการฟังเพลงร็อค หนังเรื่องนี้เหมือนกับได้นำเพลง ที่ดังในอดีตเอากลับมาใช้งาน ให้กับหนังของเขาได้มีพลัง ในการถ่ายทอดนั้นเอง จึงทำให้หนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะดูกี่ทีหรือว่าได้ยินดนตรี ก็ทำให้คุณระลึกถึงวันเวลาเก่าๆ ที่ครั้งหนึ่งคุณเคยมีประสบการณ์ร่วม ไปกับบทเพลงและหนังที่

ได้สร้างความประทับใจ ให้กับผู้ชมมาอย่างยาวนาน ถึงแม้หนังจะฉายตั้งแต่ปี 2003 แต่ผู้คนโดยทั่วไป หากให้นึกถึงหนังดนตรีดีๆซะเรื่อง หลายๆคนได้ยกหนังเรื่องนี้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องในดวงใจอย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังทำให้

วัฒนธรรมการเล่นดนตรี หรือการฟอร์มวงดนตรี เพื่อประกวดนั้นได้บูม ในยุคหลังจากที่หนังได้ฉายไปแล้วนั้นเอง วงดนตรีร็อคต่างๆ จึงได้เกิดขึ้นมากมาย ในยุคนี้นั้นเอง จากการได้รับแรงบัลดาลใจ มาจากหนังเรื่องนี้นั้นเอง

School of rock

หนังเรื่องนี้มี อิทธิพล กับหนังดนตรียังไง?

ด้วยกระแสของหนัง ที่เป็นที่พูดถึงกันไปทั่ว และยังสร้างแรงบัลดาลใจให้กับใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเล่นดนตรี หรือ การทำหนังแนวดนตรีนั้นเอง หลังจากหนังเรื่องนี้เข้าฉายไปปีหนึ่ง ประเทศไทยเราเองก็มี หนังรักวัยรุ่นดนตรีอย่าง Sesons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เป็นหนังไทยเรื่องหนึ่งที่มี กลิ่นไอความเป็น School of rock ในแบบไทยๆอย่างมาก

จึงทำให้หนังไทยเรื่องนี้ เป็นที่นิยมในสังคมไทยด้วยเช่นกัน ทำให้เห็นถึงอิทธิพลของหนัง ที่ทำให้ใครหลายๆคน ตราตรึงกับการรวมตัวกัน ของเด็กที่รวมวงกันเล่นดนตรี ทำให้เข้าถึงกับความรู้สึกของใคร

หลายๆคนที่มีความทรงจำในวัยเด็กนั้นเอง ที่คิดว่าการเล่นดนตรีนั้น เป็นสิ่งที่ใครๆก็ต่างชื่นชอบ และเป็นที่มีชื่อเสียงในสังคมโรงเรียนอีกด้วย ทำให้เมื่อดูหนังเรื่องนี้เข้าไป ทำให้ใครหลายๆคน อยากจะลุกขึ้นมาจับกีตาร์

ซักซ้อมกับเพื่อนเลยทีเดียว อีกทั่งยังนำเพลงเก่าในยุค 70 – 80 กลับมาทำให้ผู้คนในยุคนั้น ปลุกกระแสเพลงร็อคกันเลยทีเดียว และด้วยเป็นเพลงที่มาจาก วงระดับโลกก็เลยทำให้ใครๆที่ได้ยิน ต่างรู้สึกคุ้นหูกันเป็นอย่างดี ทำให้ในช่วงเวลานั้นเอง

กระแสเพลงร็อคจึงกลับมานิยมอีกครั้ง ในวงการบ้านเราเอง ก็ต่างมีเพลงร็อคของทั้งสองค่ายยักษ์ ในบ้านเรานั้นปล่อยใส่แข่งกัน ตลอดทั้งปีเลยนั้นเอง นับว่าเป็นหนังที่ Coming of age เลยทีเดียว และยังคงทำให้ใครหลายคนตราตรึงใจ จนมาถึงทุกวันนี้เลยทีเดียว

School of rock

ไอเดียของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างไร?

ไอเดียของหนังเรื่องนี้ พูดถึงการที่ทลายกำแพง การปิดกั้นความฝัน ตัวละครเอกได้พิสูจน์ให้เห็น แล้วว่าเขานั้นไม่ได้ยอมจำนน ต่อสิ่งแวดล้อมที่คอยขว้างเขาเอาไว้ จนกระทั่งเขานั้นได้ลองมาเป็นครู จึงได้เห้นถึงความไร้เดียงสาของเด็ก ที่มีความสามารถกันทุกคน แต่กลับถูกปิดกั้นทางความสามารถนั้น โดยการเล่าผ่านดนตรี ที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับ การศึกษามาโดยตลอด

เพราะในการศึกษาโดยทั่วไปนั้น จะเน้นไปที่วิชาการมากกว่า กิจกรรมความถนัดของเด็ก จึงทำให้ระบบการศึกษานั้น เป็นเหมือนโรงงานที่ผลิต บุคคลากรที่เหมือนๆกัน หนังเรื่องนี้พาให้เห็นถึง ความฝัน ที่เรามีประโยชน์ต่อสังคม

หรือทำเพื่อคนอื่นโดยเป็นพื้นฐาน ในสิ่งที่เขาชอบนั้นเอง ไอเดียนี้จึงได้สานต่อ ถ่ายทอดผ่านบทภาพยนตร์ที่เล่าถึงช่วงเวลากระแสร็อค กำลังจางไปตามยุคสมัย มีเพียงตัวละครเอกที่เหมือนหลงยุค และมีศรัทธากับเพลงร็อคไม่เสื่อมคลาย จึงทำให้ใครหลายคนมองว่า เขานั้นดูเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโตนั้นเอง แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ พิสูจน์ในสิ่งที่เขาเชื่อได้สำเร็จ และยังได้สร้างเมล็ดพันธ์ุ

ที่เขาเชื่อว่า ลูกศิษย์ของเขาจะเชื่อมั่น ในความฝันของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นพลังบวกและสร้าง ความมั่นใจให้กับคนรอบข้าง นับว่าด้วยตัวบทแล้วรวมทั้งการแสดงของ แจ็ก แบล็ก นั้นทำให้บทบาทตัวละครนี้ ได้ทำหน้าที่ของมันได้ดีเลยทีเดียว 

สรุปสิ่งที่ได้จากการดูเป็นอย่างไร?

เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่มีเสน่ห์ ในแบบฉบับของตัวเอง และสร้างอิทธิพลให้กับ หนังดนตรีในเรื่องอื่นๆ นอกจากนี้ยังได้นำบทเพลง อันมีชื่อเสียงในอดีต นำกลับมาทำให้เป็นที่ชื่นชอบอีกครั้ง ใครที่เป็นแฟนเพลงยุค 70 -80 จะต้องหลงรักหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะบทเพลงหรือการแสดง ที่ชวนพาให้เห็นวัฒนธรรม ชองชาวร็อคและถือว่าเอาใจแฟนๆ เพลงร็อคกันเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว หรือแม้กระทั่งท่าทางโซโล่กีตาร์ ยังมาจากบุคคลที่เป็นตำนาน ในวงการร็อคจนถึงปัจจุบันนั้นเอง นับว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่ ให้แรงบัลดาลใจกับใครหลายๆคนได้ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ขอให้ตั้งใจและทำมันโดยที่ไม่ลังเล

คุณเองก็ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน จึงทำให้มองว่า School of rock นั้นเป็นหนัง ตลก – ดนตรี ที่สร้างอิทธิพลหลายๆอย่าง ให้กับสังคมและวงการดนตรีอีกด้วย กระแสของเพลงร็อคได้ กลับมาเฟื้องฟูอีกครั้ง

ในช่วงยุคต้นๆปี 2000 นั้นเอง และยังพาให้ทุกคนจดจำ นักแสดงอย่าง แจ็ก แบล็ก ไปอีกนานแสนนาน ด้วยการแสดงของเขานั้นเอง หากใครที่ชื่นชอบหนัง ตลก และดนตรี รับรองเรื่องนี้ไม่ทำให้ คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน

อนิเมะ ล่าสุด

ที่เที่ยวสวนสนุก