อนิเมะมันๆ รายากับมังกรตัวสุดท้าย The Raya and last dragon จากค่ายดัง Walt Disney

อนิเมะมันๆ รายากับมังกรตัวสุดท้าย เป็นภาพยนตร์จากค่ายดังอย่าง Walt Disney ซึ่งเป็นภาพยนตร์ ที่ถูกใจชาวอาเซียนอย่างมาก และสำหรับหลายๆ คน ที่เป็นสาวกของภาพยนต์ Walt Disney ที่เป็นที่รู้จักกัน ในนามของเจ้าหญิงทั้งหลาย มู่หลาน Star Wars เป็นต้น ทีมอนิเมชั่นในบ้าน ของดิสนีย์ในยุคหลัง จะเป็นการวาดด้วยมือ

มันเป็นสิ่งที่สวยงาม น่าทึ่ง ซึ่งได้แรงบันดาลใจ จากการผสมผสาน ของวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Raya And The Last Dragon เป็นอนิเมชั่นแฟนตาซี ที่บอกเล่าเรื่องราวของรายา ซึ่งรับบทเป็น

ชาวอเมริกัน ที่มีเชื้อสายเวียดนาม Kelly Marie Tran เจ้าหญิงนักรบวัยรุ่น ที่ออกเดินทางผจญภัย เพื่อตามหาซีซู Awkwafina มังกรตัวสุดท้าย เพื่อการดำรงชีวิตอยู่ และการรวมกลุ่มที่แตกสลาย

ของเธอให้กลับคืนมาอีกครั้ง เพราะ Kumandra เป็นแผ่นดินที่เป็นปึกแผ่น และมีความรุ่งเรือง ลักษณะที่โดดเด่น ในช่วงแรกของ Raya and the Last Dragon ก็คือ นักเขียนอย่าง Qui Nguyen

และ Adele Lim มีความคิดว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็น อุทาหรณ์สำหรับความหายนะ ของโลกของเราเอง แล้วยังมีการพูดถึง ภัยพิบัติที่เกิดจากมนุษย์ โลกที่จะแตกสลาย และมนุษย์จะต้องต่อสู้กันเอง เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูอื่นๆ

อนิเมะมันๆ รายากับมังกรตัวสุดท้าย เรื่องราวของรายา มีความเป็นมาอย่างไร?

รายากับมังกรตัวสุดท้าย ความเป็นมาของรายากับมังกรตัวสุดท้าย ต้องย้อนกลับไป เมื่อห้าร้อยปีก่อน มังกรท่องไปทั่วโลก เป็นผู้แสวงหาสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรือง มันเป็นความมหัศจรรย์ ของสิ่งมีชีวิตที่มีมนต์ขลังเหล่านี้ ที่จะช่วยมนุษยชาติ จากดรูอุน Druun ปีศาจชั่วร้าย ซึ่งมันเป็นตัวร้าย ของภาพยนตร์เรื่องนี้ หมอกสีม่วงที่เต็มไปด้วยฝุ่น

ที่มีพลังในการเปลี่ยน คนและสัตว์ให้กลายเป็นหิน ส่วนสถานที่ต่างๆ จะกลายเป็นทะเลทรายทั้งหมด Sisu ก็เอาชนะ Druun ได้ แล้วยังทำให้ทุกคน กลับมามีชีวิตอีกครั้ง กลับมาที่ปัจจุบัน

มังกรคือประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ เมื่อความไร้เดียงสา ของรายาในวัยเยาว์ นำพาเหล่าศัตรูให้มาทำลาย dragon gem โดยไม่ได้ตั้งใจ Druun มาทำให้พ่อของเธอ กลายเป็นหิน เป็นเวลาถึง 6 ปี

หลังจากนั้น เรื่องราวต่างๆ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น รายาได้ฟื้นคืนชีพ มังกรตัวสุดท้ายนั่นก็คือ Sisu ยอมรับว่าตัวเอง และรายาเป็นนักรบเพียงคนเดียว บนโลกที่เหลืออยู่ เธอจึงไม่สามารถพึ่งพาใครได้ รายามีความเชื่อ ของพ่อเธอในการทำงานร่วมกันของมนุษย์

รายากับมังกรตัวสุดท้าย ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีการแสดงถึงความเป็นอาเซียนด้วย

รายากับมังกรตัวสุดท้าย เป็นเรื่องที่มาจาก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในสมัยโบราณ ซึ่งมีความเป็นไทย แสดงถึงเรื่องในวังบ้าง เพราะรายา เป็นเจ้าหญิงที่ต่อสู้กับมังกร ซึ่งถูกถ่ายทอดจาก มุมมองของผู้ที่เติบโต มาในแบบฉบับอาเซียน และภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ได้รับแรงบันดาลใจ จากประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย

และอินโดนีเซีย อาจเป็นเพราะเหตุผลนี้ จึงทำให้รู้สึกว่า มังกร Sisu ดูเหมือนม้ายูนิคอร์น ที่ดูไม่เป็นอันตราย ไม่เหมือนกับมังกรตัวใหญ่ๆ ที่จะพ่นไฟเหมือนในภาพยนตร์ ทั่วๆ ไปที่เราเห็น แต่ในเรื่องนี้

มังกรดูไม่เป็นอันตราย ไม่น่ากลัว และสำหรับโครงหน้า ของตัวละครในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะคล้ายคน Hawaii เวียดนาม หรือเกาะบาหลี เป็นต้น และยังมีชื่อตัวละคร ที่มีความบ่งบอก ถึงหลายภาษาเช่น น้อย ตุ๊กตุ๊ก

และมังกรที่ชื่อ ซีซู เป็นต้น รวมถึงวัฒนธรรมต่างๆ ที่เมื่อดูแล้วก็ต้อง คอยทายกันว่า เป็นวัฒนธรรมของประเทศไหน ถึงแม้ว่าจะมีความต่างกันเล็กน้อย แต่ก็ใกล้เคียงกัน ในเรื่องยังมีฉากของตลาดน้ำ ที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย เรื่องนี้มีความน่าสนใจ และน่าติดตามมาก หากมีโอกาสอยากให้ทุกคน ไปลองดูกัน

เรื่องนี้ มีความน่าสนใจ และมีอะไรน่าติดตาม ?

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ จะถูกใจคนที่ชอบภาพยนตร์ แนวอนิเมชั่นเป็นอย่างมาก และภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้สร้างอนิเมชั่น ที่น่าทึ่งเพื่อทำให้ โลกแห่งเวทมนตร์มีชีวิตชีวา มีความสวยงามและมีสีสัน ทั้งแสงไฟ รวมถึงทิวทัศน์ ก็มีความสวยงามมาก เพื่อเพิ่มความสวยงามนี้ ดิสนีย์ควรได้รับเครดิตบางส่วนเช่นกัน สำหรับการเพิ่มเอฟเฟ็คในแต่ละช็อตด้วย CGI ที่น่าทึ่ง

หลังจากดูภาพยนตร์แล้ว จะได้เห็นตัวละครของดิสนีย์ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่าง Frozen และ Moana ของดิสนีย์อยู่ในนั้น และดิสนีย์ก็ได้พัฒนาตัวละคร ให้มีลักษณะคล้ายกับตัวละครใน Frozen และ Moana

และยังได้สัมผัส ความเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในลักษณะที่ ปรากฏในรูปแบบตัวละคร ไม่เพียงแต่ตัวละคร วิวทิวทัศน์ ฉากต่างๆ ที่แสดงในรายาและมังกรตัวสุดท้าย จะทำให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรม

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แบบดั้งเดิม รายา เจ้าหญิงคนใหม่ของดิสนีย์ ได้แอบเตือนเราให้ระวัง การหาเรื่องทะเลาะกัน จะมีฉากนึงที่มังกร Sisu พูดกับ Druun ว่า นอกจากความขัดแย้ง ที่เกิดจากความไม่ลงรอยกันของมนุษย์

ในโลกสมัยใหม่ ที่ความโดดเดี่ยวกลายเป็น เรื่องปกติอและยังขาดความสามัคคี การสานสัมพันธ์กัน ระหว่างเพื่อนมนุษย์ หากเราพยายามทำความเข้าใจกัน เพียงเล็กน้อยก็อาจจะ ไม่เกิดความขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้งกันได้

ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้นำเอาสาระสำคัญของ ความสามัคคีและมิตรภาพ สื่อออกมาให้เห็นอย่างแท้จริง แม้จากภาพยนตร์ เราจะเห็นวิธีที่ หัวหน้าเบญจา ซึ่งเป็นพ่อของรายา บอกถึงความสำคัญของความสามัคคี เชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ สื่อถึงคนรุ่นใหม่อย่างชัดเจน เพื่อที่จะแก้ไขปัญหา การทะเลาะเบาะแว้ง และแยกออกไปอยู่อย่างโดดเดี่ยว

เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างไรบ้าง ?

การเล่าเรื่องถึงรายา เป็นนักแสดงมีเพื่อนสนิท เธอสะสม dragon gem และเดินทางไปยัง ดินแดนของแต่ละเผ่า เพื่อรวบรวมอัญมณี ในช่วงครึ่งแรกของภาพยนตร์ เรื่องนี้เป็นเรื่องของ

การเอาชนะอุปสรรค ค้นหาหินอัญมณี หรือ dragon gem ซึ่งใช้ระยะเวลาพอสมควร และดินแดนที่แยกออกจากกันของ Kumandraเก่า ซึ่งแต่ละที่ ก็ได้รับการตั้งชื่อ ตามส่วนที่แตกต่างกัน

ของมังกรได้แก่ เขี้ยว หัวใจ กระดูกสันหลัง กรงเล็บ และหางของพวกมัน ซึ่งมีความน่าสนใจที่ แตกต่างกันออกไป ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ ดูน่าตื่นเต้นและเร้าใจเป็นอย่างมาก ความรู้สึก

หลังจากได้ดูเรื่อง รายากับมังกรตัวสุดท้าย สำหรับความรู้สึกส่วนตัว รู้สึกว่า Raya and the Last Dragon แสดงให้เห็นถึงปัญหา และความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง ซึ่งจะเจอในฉากจบ

ที่เรยาเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง ความโกรธที่แม้จะถูกเพื่อนรักหักหลังก็ตาม เธอตัดสินใจที่จะให้อภัย และเข้าใจนามารีศัตรูของเธอ และยังให้ข้อคิดเกี่ยวกับ การอยู่ร่วมกัน และการขัดแย้งกันของมนุษย์ เชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจ ระหว่างคนสองคน เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้

อนิเมะกำลังมา

เที่ยวเกาะเอเชีย